Sunday 15 June 2014

อาหารต้านภูมิแพ้เพื่อสุขภาพกัน

หน้าฝนใครแพ้อากาศ ต้องหมั่นทานอาหารต้านภูมิแพ้ 

สำหรับคนที่มีอาการแพ้อากาศหรือเป็นโรคภูมิแพ้จมูก มีกลุ่มอาหารต้านภูมิแพ้ ที่ควรจะรับประทานบ่อยๆ ประกอบด้วย

กลุ่มวิตามินซี ซึ่งช่วยในการป้องกันการหลั่งฮีสตามีน สารสำคัญที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้อากาศ แหล่งวิตามินซีที่สำคัญพบในผักใบเขียว เช่น ตำลึง ผักโขม บร็อคโคลี และกะหล่ำปลี ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ส้ม สตรอเบอร์รี่ และมะนาว 

กลุ่มวิตามินเอ อาหารต้านภูมิแพ้ในกลุ่มวิตามินเอช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อ เสริมสร้างเยื่อบุต่างๆ ทั้งยังบรรเทาอาการเมื่อได้รับสารกระตุ้นภูมิแพ้ โดยวิตามินเอพบมากในกลุ่มผักผลไม้ที่มีสีเขียวเข้ม 
สีส้ม หรือสีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มะละกอสุก มะม่วงสุก 
แคนตาลูป และมะเขือเทศ 

กลุ่มโปรตีน หมดจากกลุ่มวิตามินซึ่งได้จากผักผลไม้กันแล้ว ก็ถึงกลุ่มโปรตีนที่จะช่วยลดอาการแพ้อากาศได้ด้วย เพราะโปรตีนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยหน่วยย่อยเล็กที่สุดของโปรตีนคือกรดอะมิโน สารสำคัญในการนำไปสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ โปรตีนจะมีมากในเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อล้วน เนื้ออกไก่ เนื้อหมู และไข่ไก่ หรือจะเลือกทานถั่วต่างๆ ก็ได้ประโยชน์จากโปรตีนเช่นกัน 

กลุ่มโอเมก้า 3 อาหารต้านภูมิแพ้กลุ่มต่อไปช่วยลดอาการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายให้สามารถต่อสู้กับกลุ่มเชื้อโรค หรือสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย กลุ่มโอเมก้า 3 พบมากในปลาทะเลน้ำลึก ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และปลากะพง อย่างไรก็ตาม อาหารกลุ่มนี้แม้จะดีต่อคนที่มีอาการแพ้อากาศ แต่อาจมีส่วนไปกระตุ้นอาการภูมิแพ้ได้ ในเด็กจึงต้องระวังเป็นพิเศษ ในกรณีการแพ้อาหารทะเล นอกจากนี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน พบมากในเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง และผักใบสีเขียวเข้ม 

กลุ่มซีลิเนียม กลุ่มต่อไปเป็นกลุ่มอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม หรือสารกระตุ้นภูมิแพ้ พบมากในพืชตระกูลหอม เช่น หอมหัวใหญ่และหอมแดง

กลุ่มฟลาโวนอยด์เควอเซทิน อาหารต้านภูมิแพ้กลุ่มสุดท้ายเป็นสารต้านอาการแพ้และลดการอักเสบ ช่วยยับยั้งการปล่อยสารฮิสตามินซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอาการภูมิแพ้ พบมากในกระเทียม และพืชตระกูลหอม อย่างหอมหัวใหญ่ หอมหัวแดง ในแครอท ผักกาดหอม และแอปเปิ้ล 

หมั่นดูแลสุขภาพบ่อยๆ ด้วยการรับประทานอาหารต้านภูมิแพ้ ที่ช่วยลดอาการแพ้อากาศ หน้าฝนหรือฤดูไหนๆ ก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป

http://th.openrice.com/

No comments:

Post a Comment